
รีไซเคิลพลาสติก....ช่วยลดโลกร้อนกันดีกว่า
ในปัจจุบันมีการใช้พลาสติกในการทำผลิตภัณฑ์มากมายหลายชนิด
ทำให้เกิดขยะจากพลาสติกใช้แล้วเป็นจำนวนมาก
การ Recycle เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยจัดการกับขยะพลาสติกเหล่านี้
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่ง
พลาสติกจัดอยู่ในกลุ่ม Polymer แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. Thermo Plastic (เทอร์โมพลาสติก) มีคุณสมบัติอ่อนตัวและหลอมละลาย เมื่อได้รับความร้อน
และจะแข็งตัวเมื่อเย็นลง พลาสติกประเภทนี้โครงสร้างโมเลกุลเป็นโซ่ตรงยาว
มีการเชื่อมต่อข้ามไปมาระหว่างสายโซ่ของโมเลกุลของพอลิเมอร์ (Cross Link) น้อยมาก
จึงทำให้สามารถนำไปหลอมเหลวและนำกลับมาใช้ได้ใหม่
ตัวอย่าง พอลิเอทิลีน ,พอลิโพรพิลีน,พอลิสไตรีน ฯลฯ
2.Thermosetting Plastic (เทอร์โมเซตติงพลาสติก) มีคุณสมบัติคือ แข็งตัว ไม่ยืดหยุ่น
เปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ได้ ทนต่อความร้อนและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดี
คงรูปหลังจากผ่านกระบวนการผลิต(การให้ความร้อนและแรงดัน)ในครั้งแรกเพียงครั้งเดียว
สายโซ่โมเลกุลเกิด Cross Link เป็นจำนวนมาก ทำให้มีความแข็งแรง ทนทานสูง
เมื่อถูกอุณหภูมิสูงจะไหม้และแตกออกเป็นขี้เถ้าสีดำ พลาสติกประเภทนี้ไม่สามารถ Recycle
หรือนำกลับมาผ่านกระบวนการแปรรูปใช้ใหม่ได้
ตัวอย่างเช่น อีพ็อกซี (epoxy) , เมลามีน ฟอร์มาลดีไฮด์ (melamine formaldehyde)
ฟีนอลฟอร์มาดีไฮต์ (phenol-formaldehyde) , โพลิเอสเตอร์ (polyester) ฯลฯ
ดังนั้นการ Recycle พลาสติกต้องเริ่มจากแยกพลาสติกที่สามารถทำการ Recycle ได้ออกมาก่อนในเบื้องต้น
ซึ่งหมายความว่าต้องทำการคัดแยก Thermo Plastic ออกมาก่อนนั่นเอง
สัญลักษณ์ของการ Recycle พลาสติก

สัญลักษณ์นี้หมายความว่าพลาสติกนั้นสามารถนำไป Recycle เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้
โดยตัวเลขที่อยู่ในสัญลักษณ์หมายความถึงพลาสติกชนิดต่างๆดังนี้

|
1.โพลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate, PET, PETE)


คุณสมบัติ : มีความใส โปร่งแสง ยืดหยุ่น แก๊สซึมผ่านได้ยาก ทนต่อแรงกระแทกได้ดี
ใช้ในการทำขวดบรรจุน้ำอัดลม , น้ำดื่ม ,น้ำผลไม้ |

|
2. โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (High Density polyethylene, HDPE)


คุณสมบัติ : มีสีขาวขุ่น , โปร่งแสง ทนต่อสารเคมี มีความเหนียวและยืดหยุ่น
ทนต่อแรงกระแทก ไม่แตกร้าวง่าย
ใช้ทำขวดน้ำดื่ม , ขวดน้ำนม , ถาดน้ำแข็ง ,กล่องบรรจุอาหาร ยา , ถุงหิ้ว |

|
3. โพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride, PVC)


คุณสมบัติ : เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี ทนทานต่อ กรด- เบส และสารเคมีต่างๆ
ทนแรงเสียดสี การขัดถูได้ดี
ใช้ทำท่อน้ำประปา , สายยาง , ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า ,แผ่นฟิล์มสำหรับห่ออาหาร , กระเบื้องยาง
|

|
4. โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (Low Density polyethylene, LDPE)


คุณสมบัติ : สีขาวขุ่น โปร่งแสง เหนียวและยืดหยุ่น มีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำ
ใช้ทำถุงเย็นสำหรับใส่อาหาร ฟิล์มสำหรับห่ออาหาร ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า
สามารถนำมา Recycle เป็นถุงดำใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว
|

|
5. โพลิโพรพิลีน (Polypropylene, PP)


คุณสมบัติ : มีความแข็ง สีขาวขุ่น ไม่ทึบแต่ไม่ใส น้ำหนักเบา ความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำ
ต้านทานการซึมผ่านของไอน้ำและแก๊สได้ดี
ใช้ทำภาชนะบรรจุอาหาร จาน ชาม กล่อง ถัง ตะกร้า กระบอกใส่น้ำแช่เย็น
|

|
6. โพลิสไตรีน (Polystyrene, PS)

คุณสมบัติ : เป็นของเหลวมีลักษณะคล้ายน้ำมัน ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน ละลายน้ำได้น้อย
ใช้ทำภาชนะโฟมบรรจุอาหาร ถ้วยกาแฟ กล่องโฟม ถาดโฟม กล่องเทป แผ่น CD
|

|
7. พลาสติกชนิดอื่นที่ไม่ใช่พลาสติกทั้ง 6 กลุ่มข้างต้น
หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกหลายชนิด
|
ขั้นตอนการ Recycle ในโรงงานนั้นประกอบไปด้วย
การแยกสิ่งปะปนหรือสิ่งที่ไม่สามารถ Recycle ได้ออกจากพลาสติก การตัดหรือบดพลาสติกให้เป็นชิ้นเล็กๆ
การทำความสะอาด การคัดแยกประเภทพลาสติกโดยการลอยน้ำ การทำให้แห้ง
การหลอมเหลวด้วยความร้อนและแรงดัน การกรองเพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อน การขึ้นรูปทำเป็นเม็ดพลาสติก
พลาสติกที่ผ่านการ Recycle อาจมีคุณสมบัติทางกายภายที่ด้อยลงไป
เนื่องจากกระบวนการ Recycle จะมีการบดพลาสติก ซึ่งแรงเฉือนเชิงกล (Mechanical Shear)
สามารถทำให้สายโซ่ของพอลิเมอร์แตกออกหรือสั้นลง ทำให้ความยาวของโมเลกุล และน้ำหนักโมเลกุลลดลง
นอกจากนี้ความบริสุทธิ์ของพลาสติก Recycle จะไม่มากเท่าเดิม
จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณภาพของพลาสติกชนิดนี้ด้อยลงไปได้อีกด้วย
|